กสิกรไทยส่ง Term Fund Plus

นายนาวิน อินทรสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุนต่างประเทศ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า บลจ.กสิกรไทยทยอยจัดตั้งกองทุน Term Fund Plus อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ในระดับปานกลาง

jumbo jili

และกำลังมองหาโอกาสรับผลตอบแทนเพิ่มในช่วงที่เศรษฐกิจทั่วโลกเริ่มส่งสัญญาณการฟื้นตัว ซึ่งที่ผ่านมากองทุนได้รับความสนใจและเสียงตอบรับจากผู้ลงทุนเป็นจำนวนมาก ทำให้สามารถปิดการขายได้อย่างรวดเร็วและระดมทุนได้สูงถึง 61,619 ล้านบาท (ข้อมูล ณ 25 ก.พ. 64) ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทยเตรียมออก Term Fund Plus กองใหม่ชื่อว่า กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 2022E (KFF22E) โดยเปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO) ในระหว่างวันที่ 5-12 มีนาคม 2564

นายนาวินกล่าวต่อไปว่า ความน่าสนใจของกองทุน Term Fund Plus อยู่ตรงที่กองทุนใช้กลยุทธ์ Buy & Maintain ที่เน้นกระจายลงทุนในตราสารหนี้กว่า 80 ตราสาร ซึ่งมากกว่ากองทุน Term Fund ทั่วไป และลงทุนในตราสารหนี้ Investment Grade ไม่น้อยกว่า 70% รวมถึงกระจายลงทุนบางส่วนในเงินฝากต่างประเทศ เพื่อลดความผันผวนให้พอร์ตการลงทุน

สล็อต

ทั้งนี้ กองทุน KFF22E จะเน้นลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพดีทั่วโลกโดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย ผ่านกองทุนต่างประเทศ Invesco Asian Bond Fixed Maturity Fund 2022 – VI, Class C(USD)-Acc ในสัดส่วนประมาณ 60% ของพอร์ต ซึ่งบริหารจัดการโดย Invesco บลจ.ชั้นนำระดับโลกที่มีความเชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการกองทุนตราสารหนี้ ส่วนที่เหลือประมาณ 40% บลจ.กสิกรไทยนำไปบริหารโดยกระจายลงทุนในเงินฝากต่างประเทศ ได้แก่ เงินฝาก PT Bank Rakyat Indonesia (ประเทศอินโดนีเซีย), เงินฝาก Qatar National Bank (ประเทศกาตาร์) และเงินฝาก Bank of China (สาธารณรัฐประชาชนจีน)

อย่างไรก็ดี กองทุน Term Fund Plus เหมาะสำหรับผู้ที่มองเห็นโอกาสจากการกระจายลงทุนในตราสารหนี้และเงินฝากต่างประเทศ โดยสามารถถือครองหน่วยลงทุนเป็นเวลา 1 ปีได้

สล็อตออนไลน์

นายนาวินกล่าวเพิ่มเติมว่า บลจ.กสิกรไทยขอสงวนสิทธิ์เฉพาะในวันที่ 5 มีนาคม 2564 เริ่มเปิดขายตั้งแต่เวลา 11.00 น.เป็นต้นไป สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเริ่มต้นลงทุนได้เพียง 500 บาท ผ่านแอปพลิเคชัน K PLUS หรือ K-My Funds หรือธนาคารกสิกรไทยทุกสาขาทั่วประเทศ โดยเมื่อกองทุนครบกำหนดอายุโครงการ เงินค่าขายคืนอัตโนมัติจะถูกนำไปซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนเปิดเค ตราสารรัฐระยะสั้น (K-TREASURY) หรือกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ระยะสั้น (K-SF) ตามที่ผู้ลงทุนได้แจ้งความประสงค์ไว้เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนอย่างต่อเนื่อง

jumboslot

โครงการ “เราชนะ” และ “ม.33 เรารักกัน” ที่รัฐบาลสนับสนุนวงเงินช่วยเหลือค่าครองชีพแก่ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และประชาชนที่ประกอบอาชีพอิสระ มีคนที่ไม่ได้รับสิทธิอยู่ 2 กลุ่มหลักๆ คือ

มีเงินได้พึงประเมินเกิน 300,000 บาท (ปีภาษี 2562) ซึ่งโชคดีที่ไม่ได้นับมาเป็นเกณฑ์กับโครงการ ม.33 เรารักกัน

กับ มีเงินฝากรวมทุกบัญชีเกิน 500,000 บาท (ณ 31 ธ.ค. 2563)

แม้ว่ามนุษย์เงินเดือนที่หักเงินเข้ากองทุนประกันสังคมทุกเดือน ถ้าลงทะเบียนโครงการ ม.33 เรารักกัน จะยกเว้นคุณสมบัติเงินได้พึงประเมิน โดยวงเงินที่ได้รับเพียง 4,000 บาท น้อยกว่าโครงการเราชนะที่ได้รับวงเงินสูงสุด 7,000 บาท

แต่คุณสมบัติที่ว่า “มีเงินฝากรวมทุกบัญชีไม่เกิน 500,000 บาท”ก็ทำให้คนที่ทำงานเก็บเงินมาทั้งชีวิต หรือคนที่เพิ่งรับมรดก เพิ่งรับค่าสินสอด ขายที่ดินได้ หรือเพิ่งถูกหวยชุดใหญ่ ได้แต่หัวเสียไปไม่น้อยเหมือนกัน

สำหรับการพิจารณาเกณฑ์เงินฝากเพื่อรับสิทธิโครงการเราชนะ หรือ ม.33 เรารักกัน จะคำนวณจากเงินฝากกระแสรายวัน เงินฝากออมทรัพย์ เงินฝากประจำ บัตรเงินฝาก ใบรับฝากเงิน และผลิตภัณฑ์เงินฝากอื่นใดที่มีลักษณะทำนองเดียวกัน

โดยคำนวณจากบัญชีเงินฝากในธนาคารพาณิชย์ทุกแห่ง ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์)

ไม่รวมคำนวณเงินฝากใน “บัญชีร่วม” “บัญชีเพื่อ” และสลากออมทรัพย์ เช่น สลากออมสิน, สลากออมทรัพย์ ธ.ก.ส., สลากออมทรัพย์ ธอส. และไม่รวมคำนวณเงินฝากในรูปสกุลเงินตราต่างประเทศ

slot

เมื่อหลักเกณฑ์ออกมาเป็นแบบนี้ ก็มีคนที่ไม่พอใจรัฐบาลอยู่บ้าง เช่น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์แกนนำกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า กลุ่มสร้างไทย ชี้ว่าผู้ประกันตนตามมาตรา 33 จะต้องเยียวยาทุกคนโดยเสมอภาค

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า การกำหนดเงื่อนไขเงินฝากในบัญชีธนาคารไม่เกิน 500,000 บาท มีช่องว่าง สร้างความไม่เท่าเทียม ไม่เป็นธรรมกับผู้ประกันตน ที่จ่ายเงินสมทบเหมือนกัน แต่กลับได้รับสิทธิประโยชน์ไม่เท่ากัน

ส่วน กรณ์ จาติกวณิชหัวหน้าพรรคกล้า แม้จะไม่ได้กล่าวถึงหลักเกณฑ์โครงการโดยตรง แต่น่าสนใจตรงที่ รัฐบาลมองข้ามประชาชนกลุ่มที่ “ไม่รวย แต่เสียภาษีให้รัฐ”ตลอด เช่น กลุ่มเอสเอ็มอี และคนมีรายได้ไม่เกิน 40,000 บาทต่อเดือน

กรณ์เสนอให้ช่วยเหลือผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบภาษี ที่เป็นพลเมืองดีมาตลอดแต่วันนี้เดือดร้อน ด้วยการชดเชยรายได้ ใช้ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เปรียบเทียบยอดขายระหว่างปี 2562 และปี 2563

ส่วนประชาชนที่จ่ายภาษีเงินได้มาโดยตลอด รัฐบาลควรเว้นภาษีเงินได้ทั้งหมดให้กับผู้เสียภาษีในกลุ่มที่มีรายได้ต่อปีไม่เกิน 500,000 บาท และเสียภาษีในอัตราไม่เกิน 10% รวมประมาณ 3 ล้านคน เป็นเม็ดเงินภาษีประมาณ 50,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ สุขาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ออกมาเคลียร์ถึงหลักเกณฑ์เงินฝากในโครงการ ม.33 เรารักกันผ่านสื่อมวลชน ระบุว่า โครงการนี้เกิดขึ้นเพราะสหภาพแรงงาน ผู้นำสภาองค์การลูกจ้างต่างๆ เรียกร้องให้เกิดขึ้น

รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาจึงผลักดันโครงการ ม.33 เรารักกัน ตามข้อเรียกร้อง โดยใช้เงินกู้มาจากก้อนเดียวกับโครงการเราชนะ คือ “พ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท” ไม่ใช่เงินกองทุนประกันสังคม

โครงการนี้กลุ่มผู้นำแรงงานเรียกร้องให้อย่าเอาเกณฑ์เงินเดือนไม่เกิน 300,000 บาทต่อปี มาจับ เพราะจะทำให้คนที่มีเงินเดือน 25,000-26,000 บาท ในออฟฟิศเดียวจะไม่ได้รับเงินเยียวยา (ภาษาชาวบ้าน คือ จะแตกความสามัคคีในที่ทำงาน)

ส่วนเกณฑ์เงินฝากไม่เกิน 500,000 บาทนั้น กลุ่มผู้นำแรงงานรับได้ เพราะรู้อยู่แล้วว่ามีไม่กี่คนหรอกที่มีเงินเก็บถึง 500,000 บาท จึงเป็นที่มาของหลักเกณฑ์ที่แตกต่างจาก “โครงการเราชนะ” ก่อนหน้านี้

คาดว่า ม.33 เรารักกัน จะมีผู้ผ่านหลักเกณฑ์ 9 ล้านคน ใช้งบประมาณ 38,000 ล้านบาท ส่วนผู้ที่ไม่เข้าเกณฑ์จะมี 2 ล้านคน นอกจากมีเงินฝากเกิน 5 แสนบาทแล้ว ยังเป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และแรงงานต่างชาติ

SCBAM กระตุ้นนักลงทุนลงทุน

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เชิญชวนนักลงทุนเริ่มลงทุนในกองทุนลดหย่อนภาษี ไม่ต้องรอปลายปี โดยจัดแคมเปญ “เริ่มก่อน คุ้มกว่า” ตั้งแต่วันนี้-31 พ.ค. 2564 นี้ ผู้ที่สนใจสามารถลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) และ/หรือกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ผ่านช่องทาง SCBAM Fund Click, SCB EASY App

jumbo jili

หรือผู้สนับสนุนการขายทุกราย โดยผู้ลงทุนที่เข้าร่วมแคมเปญจะได้รับหน่วยลงทุนกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ระยะสั้น (SCBSFF) ที่มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ เช่น พันธบัตรรัฐบาล ตราสารธนาคารพาณิชย์ และหุ้นกู้ มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 1,000 บาท ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด

สำหรับเงื่อนไขภายใต้แคมเปญนี้ กำหนดให้ลงทุนในช่องทางเดียวกันและประเภทเดียวกัน โดยจะต้องเริ่มลงทุนครั้งแรกในช่วงเวลาตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์-31 พฤษภาคม 2564 โดยภายในเดือนนั้นๆ จะลงทุนครั้งละเท่าใดก็ได้แต่ยอดเงินลงทุนสะสมสุทธิในเดือนนั้นจะต้องมีจำนวนขั้นต่ำ 5,000 บาทต่อเดือน และจะต้องมีการลงทุนเป็นระยะเวลา 6 เดือนต่อเนื่องติดต่อกันตามเดือนปฏิทิน โดยผู้ลงทุน 1 รายสามารถเลือกลงทุนได้ 3 แบบ ได้แก่ 1)

สล็อต

เลือกลงทุนในกองทุน SSF เพียงอย่างเดียว จะคำนวณในอัตราสูงสุดไม่เกินจำนวน 200,000 บาท จะได้รับหน่วยลงทุน SCBSFF มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 400 บาท 2) เลือกลงทุนในกองทุน RMF เพียงอย่างเดียว จะคำนวณในอัตราสูงสุดไม่เกินจำนวน 500,000 บาท จะได้รับหน่วยลงทุน SCBSFF มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 1,000 บาท และ 3) เลือกทั้งกองทุน SSF และกองทุน RMF จะคำนวณตามที่กำหนดไว้ในข้อ 1 และข้อ 2 และเมื่อรวมมูลค่าหน่วยลงทุน SCBSFF ทั้งหมดแล้วจะต้องได้รับเป็นมูลค่าสูงสุดไม่เกิน 1,000 บาท

ยกตัวอย่างเช่น นายเอ เริ่มลงทุนในเดือน พ.ค.-ต.ค. โดยเลือกลงทุนในกองทุน SFF เดือนละ 30,000 บาท และกองทุน RMF 60,000 บาท พอจบแคมเปญเท่ากับว่านายเอจะมีเงินลงทุนที่เข้าร่วมโครงการในกองทุน SSF จำนวน 180,000 บาท และกองทุน RMF จำนวน 360,000 บาท เพราะฉะนั้น นายเอจะได้รับหน่วยลงทุน SCBSFF จากโครงการนี้มูลค่า 1,000 บาท เป็นต้น

สล็อตออนไลน์

ทั้งนี้ ไม่นับรวมการโอนสับเปลี่ยนภายในกองทุนรวมที่เข้าร่วมแคมเปญ และกรณีที่ลูกค้ามีการขายคืน โอนสับเปลี่ยนออก หรือโอนออกไปยังกองทุนรวมที่ไม่ได้เข้าร่วมแคมเปญ หรือกองทุนรวมที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของบริษัทจัดการอื่น ยอดเงินจำนวนดังกล่าวจะถูกนำไปหักออกจากยอดเงินลงทุนสะสมสุทธิของลูกค้า

สำหรับกองทุนที่เข้าร่วมแคมเปญ ครอบคลุมทุกสินทรัพย์ทั้งกองทุนไทยและต่างประเทศ มีจำนวนทั้งสิ้น 32 กองทุน แบ่งเป็นกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) จำนวน 16 กองทุน แบ่งตามประเภทดังนี้ กองทุนรวมตราสารหนี้ 2 กองทุน, กองทุนรวมผสม 3 กองทุน, กองทุนรวมตราสารทุน 2 กองทุน, กองทุนรวมต่างประเทศ 7 กองทุน และกองทุนรวมสินทรัพย์ทางเลือก 2 กองทุน สำหรับกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) จำนวน 16 กองทุน แบ่งตามประเภทดังนี้ กองทุนรวมตราสารหนี้ 2 กองทุน, กองทุนรวมผสม 1 กองทุน, กองทุนรวมตราสารทุน 2 กองทุน, กองทุนรวมต่างประเทศ 3 กองทุน, กองทุนรวมสินทรัพย์ทางเลือก 2 กองทุน และกองทุนที่ลงทุนภายใต้นโยบาย LTF เดิม 6 กองทุน

jumboslot

“นอกจากเป้าหมายการลงทุนแล้ว การมีวินัยในการออมก็เป็นสิ่งที่จำเป็นไม่แพ้กัน สำหรับบางท่านที่รอลงทุนในกองทุนลดหย่อนภาษีช่วงปลายปี อยากให้ลองปรับเปลี่ยนการลงทุนเป็นแบบ DCA หรือ Dollar Cost Average เพื่อเป็นการสร้างวินัยการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ และให้เงินทำงานแบบอัตโนมัติทุกเดือนโดยไม่ต้องคำนึงว่า ณ ขณะนั้นราคาจะเป็นอย่างไร ซึ่งการลงทุนแบบ DCA นี้จะเป็นตัวช่วยการลงทุนเพื่อเป้าหมายระยะยาวของเราได้เช่นกัน” นายณรงค์ศักดิ์กล่าว

slot

นายนาวิน อินทรสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุนต่างประเทศ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า บลจ.กสิกรไทยทยอยจัดตั้งกองทุน Term Fund Plus อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ในระดับปานกลาง และกำลังมองหาโอกาสรับผลตอบแทนเพิ่มในช่วงที่เศรษฐกิจทั่วโลกเริ่มส่งสัญญาณการฟื้นตัว ซึ่งที่ผ่านมากองทุนได้รับความสนใจและเสียงตอบรับจากผู้ลงทุนเป็นจำนวนมาก ทำให้สามารถปิดการขายได้อย่างรวดเร็วและระดมทุนได้สูงถึง 61,619 ล้านบาท (ข้อมูล ณ 25 ก.พ. 64) ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทยเตรียมออก Term Fund Plus กองใหม่ชื่อว่า กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 2022E (KFF22E) โดยเปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO) ในระหว่างวันที่ 5-12 มีนาคม 2564

นายนาวินกล่าวต่อไปว่า ความน่าสนใจของกองทุน Term Fund Plus อยู่ตรงที่กองทุนใช้กลยุทธ์ Buy & Maintain ที่เน้นกระจายลงทุนในตราสารหนี้กว่า 80 ตราสาร ซึ่งมากกว่ากองทุน Term Fund ทั่วไป และลงทุนในตราสารหนี้ Investment Grade ไม่น้อยกว่า 70% รวมถึงกระจายลงทุนบางส่วนในเงินฝากต่างประเทศ เพื่อลดความผันผวนให้พอร์ตการลงทุน

ทั้งนี้ กองทุน KFF22E จะเน้นลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพดีทั่วโลกโดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย ผ่านกองทุนต่างประเทศ Invesco Asian Bond Fixed Maturity Fund 2022 – VI, Class C(USD)-Acc ในสัดส่วนประมาณ 60% ของพอร์ต ซึ่งบริหารจัดการโดย Invesco บลจ.ชั้นนำระดับโลกที่มีความเชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการกองทุนตราสารหนี้ ส่วนที่เหลือประมาณ 40% บลจ.กสิกรไทยนำไปบริหารโดยกระจายลงทุนในเงินฝากต่างประเทศ ได้แก่ เงินฝาก PT Bank Rakyat Indonesia (ประเทศอินโดนีเซีย), เงินฝาก Qatar National Bank (ประเทศกาตาร์) และเงินฝาก Bank of China (สาธารณรัฐประชาชนจีน)

อีสท์สปริงจ่ายคืนครบเกือบ 100% หลังปิด 4 กองตราสารหนี้ช่วงโควิด

นายอดิศร เสริมชัยวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทหารไทย จำกัด (TMBAM Eastspring) และกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาต จำกัด (Thannachart Fund Eastspring) กล่าวว่า “TMBAM Eastspring ยกเลิกกองทุนตราสารหนี้ทั้ง 4 กอง

jumbo jili

ท่ามกลางความผันผวนของสภาพตลาดที่เกิดขึ้นทั่วโลกจากการระบาดของโควิด-19 การตัดสินใจยกเลิกกองทุนตราสารหนี้ทั้ง 4 กองทุนที่เกิดขึ้นในช่วงดังกล่าวนั้นเป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศอื่นเช่นกัน เช่น ในประเทศอินเดีย เป็นต้น เหตุผลที่สำคัญที่สุดก็คือการเร่งขายในช่วงที่ตลาดตื่นตระหนกจะทำให้ขาดทุนอย่างหนัก และไม่ใช่วัตถุประสงค์ของผู้ลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้ ซึ่งการเข้าสู่กระบวนการชำระบัญชีก็เพื่อให้การทยอยขายสินทรัพย์จ่ายคืนผู้ลงทุนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยรักษาต้นทุน (Capital Preservation) ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ที่ดีที่สุดสำหรับผู้ถือหน่วยลงทุนทุกท่าน”

สล็อต

“สำหรับการตัดสินใจของเราในครั้งนั้น เราคำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้ลงทุนของเราสูงสุด การตัดสินใจปิดกองทุนจะเป็นวิธีการดีที่สุดที่จะช่วยหยุดการเร่งขาย ด้วยขนาดกองทุนทั้ง 4 ที่มีขนาดรวมกันใหญ่กว่า 2 แสนล้านบาท ด้วยปริมาณการขายที่สูงและรุนแรง จะสร้างความตื่นตระหนก (Panic) ในตลาดตราสารหนี้ และกระทบรุนแรงต่อตลาดการเงินของประเทศได้ ซึ่งที่ผ่านมาเราพิสูจน์แล้วว่าทำได้ตามสัญญา สามารถรักษามูลค่าทรัพย์สินที่ลงทุนของผู้ถือหน่วยลงทุนในวันทำการสุดท้ายให้ได้ใกล้เคียงกับมูลค่าเดิมทั้ง 4 กองทุน

สล็อตออนไลน์

โดยในระยะเวลาประมาณ 7 เดือนกว่าสามารถจ่ายเงินคืนให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนไปแล้วเกือบทั้งหมด โดยกองทุนเปิดทหารไทย ธนพลัส กองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นที่มีขนาด AUM ที่สูงที่สุดที่ได้ปิดกองทุนไป (กว่า 75,000 ล้านบาท) ทำการจ่ายเงินคืนงวดสุดท้ายแล้ว โดยสามารถรักษามูลค่า NAV ได้ดีเมื่อเที่ยบกับ ณ วันที่ยกเลิกกองทุน (100.06%) และกำลังจะเสร็จสิ้นกระบวนการชำระบัญชี ส่วนอีก 3 กองทุนที่เหลือได้จ่ายคืนไปได้แล้ว 88-94% และสำหรับการชำระบัญชีในระยะต่อไปนั้น

jumboslot

ซึ่งเราได้ทำตามผลสำรวจความเห็นของผู้ถือหน่วยลงทุนที่ส่วนใหญ่ต้องการให้เรารักษามูลค่าต้นทุน และถือสินทรัพย์จนถึงวันที่ตราสารหนี้ตัวสุดท้ายจะครบกำหนดอายุ โดยมีโอกาสจะได้ราคายุติธรรม ซึ่งเราจะทำการขายและพยายามทำให้การจ่ายเงินคืนยังคงมีประสิทธิภาพเช่นเดิม ขอให้ผู้ลงทุนทุกท่านมั่นใจเพราะสินทรัพย์ที่เหลืออยู่ในกองทุนตราสารหนี้ทั้งหมดมีคุณภาพอยู่ในระดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grades) ทั้งสิ้น” นายอดิศรกล่าว

นายอดิศรกล่าวเพิ่มเติมว่า “การปิดกองทุนตราสารหนี้ที่เกิดขึ้นส่งผลให้ผู้ถือหน่วยลงทุนของเราขาดกองทุนตราสารหนี้คุณภาพชั้นดีเพื่อใช้บริหารสภาพคล่องและจัดพอร์ตลงทุน ระหว่างที่ TMBAM Eastspring โฟกัสการบริหารกองทุนที่ปิดไปเพื่อเร่งกระบวนการชำระบัญชีและจ่ายคืนผู้ถือหน่วยลงทุน อีกหนึ่งบริษัทจัดการลงทุนในเครือ Eastspring คือ Thanachart Fund Eastspring พร้อมนำเสนอกองทุนตราสารหนี้คุณภาพดีใน 3 รูปแบบ TMB-T-ES-IPlus, TMB-T-ES-DPlus และ TMB-T-APlus ที่มีกลยุทธ์การลงทุนเพื่อเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนมากกว่าเดิม สำหรับ TMB-T-ES-IPlus จะเน้นเสนอผู้ลงทุนรายย่อย โดยมีนโยบายลงทุนในเงินฝาก ตราสารหนี้ภาครัฐ หุ้นกู้เอกชนทั้งในและต่างประเทศ

slot

โดยจะเพิ่มโอกาสในเงินฝากต่างประเทศได้สูงถึง 40% แต่จะลงทุนในตราสารคุณภาพดีที่ได้รับการให้อยู่ในกลุ่มน่าลงทุนเป็นหลัก และมี Portfolio Duration เฉลี่ยจะอยู่ไม่เกิน 1.5 ปี ส่วนกองทุน TMB-T-ES-DPlus จะเน้นเสนอขายผู้ลงทุนสถาบัน โดยมีนโยบายลงทุนคล้ายกับ TMB-T-ES-IPlus แต่ Portfolio Duration เฉลี่ยจะอยู่ไม่เกิน 1 ปี ทำให้พอร์ตลงทุนมีความผันผวนน้อยกว่า

และกองทุนตราสารหนี้น้องใหม่อย่าง TMB-T-APlus ที่จะเน้นเสนอขายผู้ลงทุนทั่วไปทั้งสถาบันและรายย่อย คาดหวังผลตอบแทนที่มากกว่า และสามารถรับความเสี่ยงจากการลงทุนในต่างประเทศได้ เพราะกองทุนมีนโนบายลงทุนในกองทุนหลัก คือ Eastspring Investments – Capital Reserve Fund เพียงกองทุนเดียว ซึ่งมีนโยบายกระจายลงทุนในตราสารหนี้หลากหลายประเภททั่วโลก โดยจะบริหารพอร์ตแบบ Dynamic Allocation ที่จะเน้นเปลี่ยนแปลงตราสารที่ลงทุนตามวัฏจักรเศรษฐกิจ ทำให้กองทุนนี้มีความพิเศษ เหมาะสำหรับการนำมาไว้ในพอร์ตลงทุนเป็นอย่างยิ่ง

”จากเหตุการณ์ที่ผ่านมาทำให้เราเชื่อมั่นว่าบริษัทสามารถบริหารกองทุนโดยเฉพาะกองทุนตราสารหนี้ให้มีประสิทธิภาพได้ในทุกช่วงเวลา เราจะมุ่งมั่นเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดี มีการบริหารความเสี่ยงแบบองค์รวม เช่น การคัดเลือกตราสารคุณภาพเพื่อประกอบพอร์ตการลงทุน และการนำระบบ Aladdin ซึ่งเป็นมาตรฐานการควบคุมความเสี่ยงและเพิ่มประสิทธิภาพการลงทุนที่ Eastspring ใช้อยู่ มาช่วยในการติดตามความเสี่ยงและลดความเสี่ยงด้านการปฏิบัติการ การเพิ่มกระบวนการกำกับดูแลการออกแบบและการจัดการผลิตภัณฑ์ (Product Governance Framework) ให้มีความแข็งแกร่งและทันท่วงที เป็นต้น”

KTAM ออกกองทุนที่ 10 ในซีรีส์ตราสารหนี้ทั่วโลก 1 ปี

นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการเปิดเสนอขาย กองทุนเปิดกรุงไทย โกลบอล ฟิกซ์ อินคัม 1Y10 (KTGF1Y10) ตั้งแต่วันนี้ ถึง 24 พฤศจิกายน 2563

jumbo jili

ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกองทุนในซีรีส์ของกองทุนตราสารหนี้ อายุโครงการประมาณ 1 ปี ที่เปิดระดมทุนมาแล้วนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดย บลจ.กรุงไทยยังคงเชื่อว่าอาจมีโอกาสที่อัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้จะมีแนวโน้มปรับตัวชันขึ้นจากนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่

และผลสืบเนื่องจากการประกาศผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา และย้ำว่าเป็นจังหวะเหมาะที่นักลงทุนจะถือครองตราสารหนี้ระยะสั้นประมาณ 1 ปี อย่างกองทุน KTGF1Y10 ที่นอกจากจะเน้นการได้รับผลตอบแทนในจำนวนเงินที่แน่นอน หรือรักษาเงินต้นให้อยู่ครบแล้ว ยังเป็นทางเลือกในการช่วยลดความเสี่ยงของพอร์ตโฟลิโออีกด้วย

สล็อต

กองทุนเปิดกรุงไทย โกลบอล ฟิกซ์ อินคัม 1Y10 เป็นกองทุนตราสารหนี้ โดยจะลงทุนในทรัพย์สินประเภทตราสารหนี้รวมกันทุกขณะไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยกองทุนมีนโยบายการลงทุนในตราสารหนี้ เงินฝาก และ/หรือตราสารการเงินที่มีอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือของผู้ออกตราสารอยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (investment grade) และ/หรือลงทุนในหน่วย CIS ของกองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนในทรัพย์สินประเภทตราสารหนี้

อย่างไรก็ตาม กองทุนอาจพิจารณาลงทุนในตราสารแห่งหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือของผู้ออกตราสารต่ำกว่าที่สามารถลงทุนได้ (non-investment grade) และ/หรือตราสารแห่งหนี้ที่ไม่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Unrated Securities) ไม่เกินร้อยละ 20 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน

สล็อตออนไลน์

ทั้งนี้ กองทุนจะพิจารณาลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินที่เสนอขายในต่างประเทศ โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ซึ่งกองทุนอาจพิจารณาลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน และ/หรือลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่น ตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.ประกาศกำหนด หรือเห็นชอบให้ลงทุนได้ไม่เกินร้อยละ 20 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือ กองทุนอาจพิจารณาลงทุนในหลักทรัพย์ที่เสนอขายในประเทศ

ได้แก่ เงินฝาก ตราสารทางการเงิน ตราสารแห่งหนี้ และ/หรือลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.ประกาศกำหนด ทั้งนี้ กองทุนอาจพิจารณาลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อลดความเสี่ยง (Hedging) หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการลงทุน (Efficient Portfolio Management)

jumboslot

ตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. และ/หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.ประกาศกำหนด และอาจลงทุนในตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note) รวมถึงอาจพิจารณาลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับอัตราแลกเปลี่ยน (F X Derivatives) ตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. และ/หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.ประกาศกำหนด โดยขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนตามความเหมาะสมกับสภาวการณ์ในแต่ละขณะ

slot

ทั้งนี้ หน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศที่คาดว่าจะมีการลงทุนเกินกว่าร้อยละ 20 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน KTGF1Y10 คือ Invesco Asian Bond Fixed Maturity Fund 2021 – V (Class C USD Acc) ที่บริหารโดย Invesco บลจ.ระดับโลก ซึ่งมีวัตถุประสงค์หลักเน้นสร้างรายได้ผ่านช่วงเวลาการลงทุนที่กำหนด และคืนเงินต้นเมื่อครบกำหนดอายุกองทุน (ทั้งนี้ กองทุนไม่ได้รับประกันเงินต้น) รวมถึงมุ่งหมายที่จะบรรลุจุดประสงค์การลงทุนโดยใช้กลยุทธ์ buy-and-maintain ในตราสารหนี้สกุลเงิน USD ผ่านการพิจารณาความเสี่ยงเชิงรุก ในระยะเวลาการลงทุน 1 ปีนับจากช่วง Initial Offer Period ไปจนถึงช่วงครบอายุกองทุน

ซึ่งมีนโยบายลงทุนไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวมในตราสารหนี้ในภูมิภาคเอเชียที่อยู่ในสกุลเงิน USD ที่ออกโดยผู้ออกตราสารที่ถูกพิจารณาคัดเลือกโดยดุลยพินิจของผู้จัดการ (เช่น รัฐบาล หน่วยงานรัฐบาล องค์การระหว่างประเทศที่มีลักษณะเหนือรัฐ (Supranational Entities) กลุ่มบริษัท สถาบันการเงิน และกลุ่มธนาคาร) ซึ่งอาจรวมถึงผู้ออกตราสารที่อยู่ในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ และกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วที่อยู่ในภูมิภาคเอเชียด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ ประเทศในภูมิภาคเอเชียในกองทุนนี้ หมายถึง ประเทศทุกประเทศในทวีปเอเชีย ยกเว้นประเทศญี่ปุ่น แต่รวมถึงประเทศออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์

KBANKชี้โอกาสลงทุนในหุ้นจีน

เคแบงก์ ไพรเวทแบงกิ้ง มองจีนยังอยู่แถวหน้า ชี้โอกาสครั้งสำคัญกับการลงทุนในหุ้นจีน A-Shares ผ่านกองทุน K-CCTV รับทิศทางของจีนตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจฉบับใหม่ ที่มีแนวโน้มการฟื้นตัวเร็วกว่าประเทศอื่น หลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย

jumbo jili

นางสาวศิริพร สุวรรณการ Managing Director – Financial Advisory Head Private Banking Group ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า เคแบงก์ ไพรเวทแบงกิ้ง และบลจ. กสิกรไทย มองเห็นศักยภาพของตลาดหุ้นจีน A-Shares ที่จะเป็นแหล่งสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวให้กับนักลงทุนได้ รวมทั้งการเปิดเสรีตลาดการเงินอย่างต่อเนื่อง และการที่ Morgan Stanley Capital International (MSCI) บริษัทจัดทำดัชนีราคาหุ้นชั้นนำของโลก ได้รวมหุ้นจีน A-Shares ในการคำนวณดัชนีตลาดเกิดใหม่ (MSCI Emerging Markets Index) นั่นหมายถึง การเปิดประตูให้นักลงทุนนอกประเทศจีน ทำให้มีทั้งสภาพคล่องและความเชื่อมั่นมากขึ้น

ขณะเดียวกันความเสี่ยงยังคงมีมาก เมื่อจีนกำลังท้าทายมหาอำนาจเดิมอย่างสหรัฐฯ ทั้งในเรื่องของธุรกิจการค้า ตลาดการเงิน รวมทั้งเทคโนโลยี ซึ่งไม่ใช่เพียงความล้ำสมัย แต่หมายถึงการเข้าถึงข้อมูลและความมั่นคงของชาติ จึงเป็นที่มาของการออกแบบกลยุทธ์การจัดการกองทุน K-CCTV ที่มีความโดดเด่น 2 ข้อ คือ

1) เป็นกองทุนหุ้นจีน A-Shares เดียวในไทยที่มีกลไกควบคุมความเสี่ยง หากตลาดหุ้นจีนมีความผันผวนสูงขึ้น กองทุนสามารถเปลี่ยนมาถือเงินสดหรือตราสารหนี้ระยะสั้นเพิ่ม จึงช่วยลดความเสี่ยงขาลงได้ระดับหนึ่ง

2) สร้างผลตอบแทนจากการจัดการเชิงรุก (Active Management) ผ่านการคัดเลือกกองทุนหลักจากสองผู้จัดการกองทุนระดับโลก ที่คร่ำหวอดในตลาดหุ้นจีนและสร้างผลงานเป็นที่ประจักษ์ ทั้ง UBS Asset Management และ Schroders ซึ่งกองทุนหลักทั้งสองมีกลยุทธ์ต่างกัน จะช่วยเพิ่มความหลากหลายในแหล่งที่มาของผลตอบแทน และกระจายความเสี่ยง

ตั้งแต่จัดตั้ง กองทุน K-CCTV ให้ผลตอบแทนที่ประมาณ 62% และแม้วิกฤตโรคโควิด-19 จะเริ่มต้นจากจีน แต่จีนสามารถรับมือได้อย่างทันท่วงที ทำให้สามารถส่งผ่านผลตอบแทนมาที่กองทุนตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ประมาณ 22% (ข้อมูล ณ วันที่ 30 ตุลาคม 2563)

สล็อต

ดร.อาร์ม ตั้งนิรันดร ผู้อำนวยการศูนย์จีนศึกษาและอาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า จากแผนกลยุทธ์ของจีนฉบับที่ 14 (ปี 2564 – 2568) มี 3 คำสำคัญ ได้แก่ 1) Dual circulation – คือใช้เศรษฐกิจภายในเป็นแกนกลางเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจภายนอก ใช้พลังการบริโภคอันมหาศาลในประเทศ สร้างเป็นวิสัยทัศน์ Globalization 2.0 หรือโลกาภิวัฒน์ยุคใหม่ เปลี่ยนจากโลกออฟไลน์สู่การค้าดิจิทัล จากการเติบโตของบริษัทขนาดใหญ่เป็นขนาดกลางและเล็ก จากบทบาทของประเทศพัฒนาแล้วสู่ประเทศกำลังพัฒนา และเปลี่ยนผู้กำหนดกฎ กติกาจากสหรัฐฯ เป็นจีน เพราะกติกากำหนดโดยผู้บริโภค

2) China 5.0 – ต่อยอดเทคโนโลยีดิจิตอลสู่ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) 5G และ Internet of Things จากข้อได้เปรียบที่ตลาดจีนเป็นผู้บริโภคออนไลน์ขนาดใหญ่ จึงมีข้อมูลมหาศาล

3) Clean energy – จีนตั้งเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมที่ต้องทำให้ได้ภายในปี 2603 คือจีนจะเป็นประเทศปลอดคาร์บอน (Carbon Neutrality) อย่างไรก็ตาม จีนยังมีความเสี่ยงหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นการเมือง วิกฤตการเงิน และเทคโนโลยีที่หลายฝ่ายตั้งคำถามว่ารัฐบาลจะมีพลังในการสร้างสรรค์แค่ไหน

สล็อตออนไลน์

ด้านผู้จัดการกองทุน นายเจีย ซ่ง จาก UBS Asset Management กล่าวว่า ความขัดแย้งระหว่างจีนกับสหรัฐฯ จะอยู่อีกนาน นักลงทุนไม่ควรตื่นตระหนกแต่ก็ไม่ควรประมาท ความสำเร็จของการลงทุนที่ผ่านมาเกิดจากการใช้โอกาสในช่วงตลาดผันผวนเข้าสะสมหุ้นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากกลยุทธ์ของจีนที่กำลังเปลี่ยนผ่านจากการเน้นภาคลงทุนสู่การบริโภคและบริการ ตัวอย่างปัจจัยขับเคลื่อนระยะยาวที่เป็นตัวบ่งชี้ธุรกิจผู้ชนะ (Long term winner) ได้แก่ 1) การยกระดับการบริโภคด้วยสินค้าคุณภาพและราคาสูงขึ้น 2) การขยายตัวของเมืองและความเจริญ 3) นวัตกรรมและการสร้างกระบวนการทำงานอัตโนมัติ และ 4) การรองรับตลาดผู้สูงอายุ

ขณะที่ นางสาวดิออน เฉิง จาก Schroders กล่าวว่า ปีนี้ ตลาดหุ้นจีนให้ผลตอบแทนดีเพราะความสำเร็จของการควบคุมโรคโควิด-19 และเศรษฐกิจฟื้นกลับมาเร็ว ตัวเลข GDP ในอนาคตอาจดูไม่สูงเพราะแรงฉุดจากธุรกิจยุคเก่าเช่น สถาบันการเงิน และโภคภัณฑ์ แต่ธุรกิจยุคใหม่ในอุตสาหกรรมที่ตอบโจทย์เศรษฐกิจหรือวิถีชีวิตยุคใหม่ เช่น เทคโนโลยี และการดูแลรักษาสุขภาพ จะยังเติบโตได้ดี สำหรับผลงานของกองทุนที่โดดเด่นในปีนี้มาจากการลงทุนในหุ้นขนาดกลางและเล็ก ที่ตอบสนองต่อการยกมาตรฐานอุตสาหกรรม การผลิตสินค้าทดแทนการนำเข้าจากกรณีความขัดแย้งกับสหรัฐฯ รวมทั้งสินค้าและบริการเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม

jumboslot

นางสาวศิริพร ย้ำว่า ภายใต้ลักษณะเฉพาะและโอกาสการเติบโตของตลาดหุ้นจีน ประกอบกับความสามารถของทีมผู้จัดการกองทุนในการคัดเลือกหุ้นที่น่าสนใจ กระจายความเสี่ยง และจัดการความผันผวน จะช่วยให้นักลงทุนสามารถสร้างผลตอบแทนที่เหมาะสมในระยะยาวด้วยการลงทุนในกองทุน K-CCTV

นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการเปิดเสนอขาย กองทุนเปิดกรุงไทย โกลบอล ฟิกซ์ อินคัม 1Y10 (KTGF1Y10) ตั้งแต่วันนี้ ถึง 24 พฤศจิกายน 2563 ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกองทุนในซีรีส์ของกองทุนตราสารหนี้ อายุโครงการประมาณ 1 ปี ที่เปิดระดมทุนมาแล้วนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดย บลจ.กรุงไทยยังคงเชื่อว่าอาจมีโอกาสที่อัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้จะมีแนวโน้มปรับตัวชันขึ้นจากนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ และผลสืบเนื่องจากการประกาศผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา และย้ำว่าเป็นจังหวะเหมาะที่นักลงทุนจะถือครองตราสารหนี้ระยะสั้นประมาณ 1 ปี อย่างกองทุน KTGF1Y10 ที่นอกจากจะเน้นการได้รับผลตอบแทนในจำนวนเงินที่แน่นอน หรือรักษาเงินต้นให้อยู่ครบแล้ว ยังเป็นทางเลือกในการช่วยลดความเสี่ยงของพอร์ตโฟลิโออีกด้วย

slot

กองทุนเปิดกรุงไทย โกลบอล ฟิกซ์ อินคัม 1Y10 เป็นกองทุนตราสารหนี้ โดยจะลงทุนในทรัพย์สินประเภทตราสารหนี้รวมกันทุกขณะไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยกองทุนมีนโยบายการลงทุนในตราสารหนี้ เงินฝาก และ/หรือตราสารการเงินที่มีอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือของผู้ออกตราสารอยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (investment grade) และ/หรือลงทุนในหน่วย CIS ของกองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนในทรัพย์สินประเภทตราสารหนี้ อย่างไรก็ตาม กองทุนอาจพิจารณาลงทุนในตราสารแห่งหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือของผู้ออกตราสารต่ำกว่าที่สามารถลงทุนได้ (non-investment grade) และ/หรือตราสารแห่งหนี้ที่ไม่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Unrated Securities) ไม่เกินร้อยละ 20 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน

Term Fund Extra

นายนาวิน อินทรสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุนต่างประเทศ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า หลังจากบริษัททำการเปิดขายกองทุน Term Fund Extra ให้แก่ผู้ลงทุนรายใหญ่ในช่วงที่ผ่านมาได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนเป็นจำนวนมาก

jumbo jili

โดยสามารถปิดการขายได้อย่างรวดเร็วภายใน 4 ชั่วโมง ระดมทุนได้กว่า 2,489.90 ล้านบาท (ข้อมูล ณ ต.ค. 63) ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทยได้จัดตั้ง Term Fund Extra กองทุนใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้ลงทุนในยามที่ตลาดยังคงมีความผันผวน และมีอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ต่ำ ในชื่อกองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ เครดิต 4 ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (KEC4-AI) ที่ยังคงคอนเซ็ปต์การเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่มากกว่าเทอมฟันด์ทั่วไป โดยมีประมาณการผลตอบแทน 1.40% ต่อปี และมีกำหนดเปิดเสนอขายในระหว่างวันที่ 9-11 พฤศจิกายน 2563

สล็อต

นายนาวินกล่าวต่อไปว่า กองทุน KEC4-AI มีการแบ่งสัดส่วนการลงทุนออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 กองทุนเข้าลงทุนในเงินฝากและตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade) ทั้งในและต่างประเทศ ในสัดส่วนประมาณ 100% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน (Net Asset Value : NAV) ซึ่งการลงทุนในส่วนนี้จะเหมือนกับนโยบายการลงทุนของเทอมฟันด์ทั่วไป แต่ความน่าสนใจที่ทำให้กองทุน KEC4-AI

มีความแตกต่าง คือ ส่วนที่ 2 กองทุนจะเข้าเป็นคู่สัญญาในธุรกรรม Bond Forward ในสัดส่วนประมาณ 20-40% ของ NAV ซึ่งในส่วนนี้ทำให้กองทุนมีโอกาสรับผลตอบแทนได้มากกว่าเทอมฟันด์ทั่วไป ในขณะเดียวกันก็จะมีความเสี่ยงด้านเครดิตที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน อย่างไรก็ดี ผู้จัดการกองทุนบริหารความเสี่ยงกองทุนผ่านการพิจารณาเข้าทำธุรกรรม Bond Forward เฉพาะกับหุ้นกู้ในระดับ Investment Grade และกระจายความเสี่ยงโดยการเข้าทำธุรกรรมในหุ้นกู้อ้างอิงอย่างน้อย 4 สัญญา

สล็อตออนไลน์

“ลักษณะการเข้าทำธุรกรรม Bond Forward คือกองทุนจะเข้าเป็นคู่สัญญาในฐานะผู้ซื้อหุ้นกู้อ้างอิงจากธนาคารคู่สัญญา โดยมีระยะเวลาของสัญญาประมาณ 1 ปี ซึ่งหากเป็นไปตามที่คาดหวัง กองทุนจะได้รับผลตอบแทนตามที่ตกลงกันกับธนาคารคู่สัญญาในวันครบกำหนดอายุสัญญา แต่หากเกิดเหตุการณ์ที่ต้องยกเลิกสัญญาก่อนวันครบกำหนด (Early Termination) ธนาคารคู่สัญญาจะต้องส่งมอบหุ้นกู้อ้างอิงให้แก่กองทุน และกองทุนจะต้องชำระราคาตามที่ตกลงกันไว้ล่วงหน้า (Forward Price) รวมถึงค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งอาจทำให้กองทุนได้รับผลตอบแทนน้อยกว่าจากที่ประมาณการไว้ได้” นายนาวินกล่าว

jumboslot

นายนาวินกล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ที่สนใจกองทุน KEC4-AI จะต้องเป็นผู้ลงทุนที่มิใช่รายย่อยและผู้มีเงินลงทุนสูงเท่านั้น โดยเริ่มต้นลงทุน 1,000,000 บาท ผ่านช่องทางธนาคารกสิกรไทย ไม่สามารถลงทุนผ่านช่องทางดิจิทัลได้ ทั้งนี้ บริษัทขอสงวนสิทธิ์ให้ในวันที่ 9 พ.ย. 63 เริ่มขายตั้งแต่เวลา 11.00 น.เป็นต้นไป และในวันที่ 11 พ.ย. 63 ไม่รับชำระค่าซื้อหน่วยลงทุนด้วยเช็ค อย่างไรก็ดี เมื่อกองทุนครบกำหนดอายุโครงการประมาณ 1 ปี บริษัทจะนำเงินค่าขายคืนอัตโนมัติไปซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนใดกองทุนหนึ่งใน 3 กองทุนเพื่อโอกาสรับผลตอบแทนอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ กองทุนเปิดเค ตลาดเงิน (K-MONEY) กองทุนเปิดเค ตราสารรัฐระยะสั้น (K-TREASURY) หรือกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ระยะสั้น (K-SF) ของ บลจ.กสิกรไทย

slot

นางสาวศิริพร สุวรรณการ Managing Director – Financial Advisory Head Private Banking Group ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า เคแบงก์ ไพรเวทแบงกิ้ง และบลจ. กสิกรไทย มองเห็นศักยภาพของตลาดหุ้นจีน A-Shares ที่จะเป็นแหล่งสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวให้กับนักลงทุนได้ รวมทั้งการเปิดเสรีตลาดการเงินอย่างต่อเนื่อง และการที่ Morgan Stanley Capital International (MSCI) บริษัทจัดทำดัชนีราคาหุ้นชั้นนำของโลก ได้รวมหุ้นจีน A-Shares ในการคำนวณดัชนีตลาดเกิดใหม่ (MSCI Emerging Markets Index) นั่นหมายถึง การเปิดประตูให้นักลงทุนนอกประเทศจีน ทำให้มีทั้งสภาพคล่องและความเชื่อมั่นมากขึ้น

ยูโอบีแนะกองทุนรวมตลาดเงิน

นางสาวรัชดา ตั้งหะรัฐ กรรมการผู้จัดการ สายพัฒนาธุรกิจ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “บลจ.ยูโอบีเล็งเห็นโอกาสท่ามกลางสภาวะตลาดปัจจุบันที่ผันผวน ทั้งจากปัจจัยสถานการณ์โควิดที่ยังมีอยู่ และภาวะอัตราดอกเบี้ยนโยบายในประเทศที่อยู่ในระดับต่ำที่อัตราร้อยละ 0.5 และคาดว่าจะคงอยู่ในระดับปัจจุบันต่อเนื่องไปถึงปี 2564 การลงทุนในกองทุนตลาดเงินจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ซึ่งเน้นการลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพที่มีระดับความเสี่ยงต่ำและมีสภาพคล่องของกองทุนสูง”

jumbo jili

“กองทุนเปิด ไทย แคช แมเนจเม้นท์ ชนิดเพื่อผู้ลงทุนนิติบุคคล (TCMF-I) เป็นกองทุนรวมตลาดเงินที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพที่มีความมั่นคง โดยแนะนำสำหรับนักลงทุนนิติบุคคลสถาบัน เพื่อการจัดสรรพอร์ตการลงทุนเพื่อให้มีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ซึ่งกองทุน TCMF-I เป็นกองทุนที่มีผลการดำเนินงานย้อนหลังของกองทุนโดดเด่นเป็นอันดับหนึ่งในกลุ่มอุตสาหกรรม ประเภทกลุ่ม Money Market General จัดกลุ่มโดย Morningstar Thailand จากกลยุทธ์การบริหารกองทุนแบบ active

สล็อต

โดยมีการปรับพอร์ตการลงทุนตามสภาวะตลาด ประกอบกับการคิดค่าธรรมเนียมของกองทุนในอัตราที่ต่ำ ทำให้ผลการดำเนินงานตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันและตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ 0.94% ต่อปี และ 1.33% ต่อปี ซึ่งให้ผลการดำเนินงานสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 3 เดือน เฉลี่ย 3 ธนาคารพาณิชย์ใหญ่ อยู่ที่ 0.40% ต่อปี และ 0.82% ต่อปี ตามลำดับ (ที่มา : Morningstar Thailand, 30 ก.ย. 2563)”

สล็อตออนไลน์

นางสาวรัชดากล่าวเสริมว่า “การลงทุนในสภาวะปัจจุบันที่ตลาดยังไม่มีความชัดเจน และมีความผันผวนจากปัจจัยการระบาดโควิด-19 ที่ยังคงมีอยู่ อีกทั้งประเด็นการเลือกตั้งสหรัฐฯ ในต้นเดือน พ.ย.ที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาดการลงทุนทั่วโลก กองทุน TCMF-I จึงเป็นหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนนิติบุคคลหรือกลุ่มสถาบันเพื่อกระจายการลงทุนและสร้างความมั่นคงให้พอร์ตการลงทุน พร้อมคำนึงถึงการดำรงสภาพคล่องที่เพียงพอ

jumboslot

ซึ่งกลยุทธ์การลงทุนกองทุน TCMF-I จะเน้นลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นที่มีคุณภาพและมีความมั่นคง โดยกว่า 70% ของพอร์ตการลงทุนนั้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐและเงินฝาก (ข้อมูล ณ 30 ก.ย. 2563) และลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชนที่มีอันดับความน่าเชื่อถือตั้งแต่ A- ขึ้นไป โดยกองทุน TCMF-I เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการสภาพคล่องและแสวงหาการลงทุนที่มีโอกาสรับผลตอบแทนในระยะสั้นที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก อีกทั้งเงินลงทุนของนักลงทุนนิติบุคคลหรือสถาบันยังมีโอกาสเติบโตในช่วงภาวะตลาดผันผวนและอัตราดอกเบี้ยต่ำอีกด้วย ทั้งนี้ นักลงทุนสามารถซื้อและขายคืนหน่วยลงทุนของกองทุนดังกล่าวได้ทุกวันทำการ และจะได้รับเงินค่าขายคืนในวันทำการถัดไป (T+1)” (โปรดศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมในโครงการจัดการกองทุน)

slot

นายนาวิน อินทรสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุนต่างประเทศ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า หลังจากบริษัททำการเปิดขายกองทุน Term Fund Extra ให้แก่ผู้ลงทุนรายใหญ่ในช่วงที่ผ่านมาได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนเป็นจำนวนมาก โดยสามารถปิดการขายได้อย่างรวดเร็วภายใน 4 ชั่วโมง ระดมทุนได้กว่า 2,489.90 ล้านบาท (ข้อมูล ณ ต.ค. 63) ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทยได้จัดตั้ง Term Fund Extra กองทุนใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้ลงทุนในยามที่ตลาดยังคงมีความผันผวน และมีอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ต่ำ ในชื่อกองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ เครดิต 4 ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (KEC4-AI) ที่ยังคงคอนเซ็ปต์การเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่มากกว่าเทอมฟันด์ทั่วไป โดยมีประมาณการผลตอบแทน 1.40% ต่อปี และมีกำหนดเปิดเสนอขายในระหว่างวันที่ 9-11 พฤศจิกายน 2563

ไทยพาณิชย์เปิดขายกองทริกเกอร์

นางนันท์มนัส เปี่ยมทิพย์มนัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เปิดเสนอขาย กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Global Trigger Opportunity (SCB Global Trigger Opportunity : SCBGTO)

jumbo jili

มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท เสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 20 – 29 กรกฎาคม 2564 นี้ ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท โดยตั้งเป้าหมายทริกเกอร์ 7% ภายในระยะเวลา 7 เดือน เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นทั่วโลก และต้องการลดความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้นด้วยการเปิดรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ 2 ครั้ง โดยไม่ต้องรอทริกเกอร์ครั้งเดียว

ทั้งนี้คาดว่าตลาดหุ้นทั่วโลกจะยังสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นได้จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ดีขึ้น และแรงสนับสนุนจากมาตรการทางการเงินและการคลังที่ยังคงดำเนินต่อเนื่องจนถึงสิ้นปี 2564 เป็นอย่างน้อย รวมถึงอัตราการฉีดวัคซีนที่เพิ่มขึ้นและปริมาณผู้ติดเชื้อที่เริ่มลดจำนวนลงจะเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้การบริโภคภาคเอกชนทั่วโลกปรับตัวดีขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นทั่วโลก โดยกองทุน SCBGTO นั้นเบื้องต้นจะลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ ขนาดเล็ก

สล็อต

เนื่องจากตัวเลขดัชนี PMI ที่ปรับตัวสูงขึ้นแสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ดีเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่น และตลาดหุ้นสหรัฐฯ ขนาดเล็ก ยังมี Market Efficiency ที่น้อยกว่าหุ้นสหรัฐฯ ขนาดใหญ่ ทั้งยังมีจำนวนหุ้นให้คัดเลือกจำนวนมาก เหมาะสำหรับการลงทุนแบบ Factor Investing โดยเมื่อเทียบกับหุ้นขนาดเล็กในตลาดอื่นแล้วนับว่ามีสภาพคล่องที่สูงกว่า

“ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ขนาดเล็ก จะมี Seasonality Effect ในช่วงเดือนก.ย.- ธ.ค.ทำให้การลงทุนมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่มากกว่าการลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ ขนาดใหญ่ (ที่มา: Seasonal Analysis: U.S. landscape Jan 2000 – May 2021) อีกทั้งกองทุนยังเสริมกลยุทธ์การบริหารพอร์ตโดยใช้ Machine Learning ที่มีศักยภาพในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกในหลากหลายแง่มุม จึงช่วยให้การลงทุนในกองทุนนี้มีความยืดหยุ่นด้วยกรอบการลงทุนที่เปิดกว้างทั่วโลก เพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนตามเป้าหมายได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น” นางนันท์มนัส กล่าว

สล็อตออนไลน์

กองทุน SCBGTO มีนโยบายลงทุนในตราสารและ/หรือหลักทรัพย์ทั่วโลก โดยเบื้องต้นจะลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ ขนาดเล็ก โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน อาทิเช่น กลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มธุรกิจ กลุ่มสินค้าบริโภค กลุ่มอุตสาหกรรม และกลุ่มการแพทย์ เป็นต้น โดยมีกลยุทธ์การลงทุนแบบ Factor Investing โดยใช้ Machine Learning ในการเลือกปัจจัยที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนให้เหนือตลาด ด้วยการคัดเลือกหลักทรัพย์รายตัวจากการวิเคราะห์เชิงปริมาณ

พร้อมทั้งพิจารณาและรวบรวมข้อมูลมากกว่า 200 ปัจจัยย่อย โดยให้คะแนนตามลักษณะของหลักทรัพย์รายตัวในแต่ละปัจจัย และพิจารณาปัจจัยการลงทุนที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนเหนือตลาดด้วยการวิเคราะห์สภาพตลาด ปัจจัยพื้นฐาน และปัจจัยด้านเทคนิค เพื่อคาดการณ์ตลาดในอนาคต โดยทำการคัดเลือกและจัดสรรน้ำหนักหลักทรัพย์รายตัวตามคะแนนในแต่ละปัจจัยการลงทุน พอร์ตลงทุนประกอบไปด้วยหุ้นประมาณ 50 ตัว ที่ได้รับคะแนนสูงุสด โดยมีน้ำหนักรายตัวที่เท่ากัน (equal-weighted) ทั้งนี้ กองทุนจะเข้าทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันความเสี่ยง (Hedging) จากอัตราแลกเปลี่ยน (Foreign Exchange Rate Risk) ทั้งจำนวน

jumboslot

สำหรับเงื่อนไขการทริกเกอร์แบ่งเป็น 2 ครั้ง ได้แก่ ครั้งที่ 1 ในกรณีที่หาก ณ วันทำการใดก็ตามเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนมีมูลค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 10.35 บาทต่อหน่วย บริษัทจัดการจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติเพียงครั้งเดียวนับแต่วันจดทะเบียนกองทรัพย์สินของโครงการเป็นกองทุนรวม และครั้งที่ 2 ในกรณีเข้าเงื่อนไขการเลิกกองทุน โดยหาก ณ วันทำการใดก็ตามเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนมีมูลค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 10.72 บาทต่อหน่วย บริษัทจัดการจะพิจารณารับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติในอัตราไม่ต่ำกว่า 10.70 บาทต่อหน่วย

slot

ทั้งนี้ จะทำการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนภายใน 5 วันทำการนับแต่วันที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว และจะชำระเงินค่ารับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติภายใน 5 วันทำการนับแต่วันทำการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติ โดยบริษัทจัดการขอสงวนสิทธินำเงินไปลงทุนต่อยังกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ระยะสั้นหรือกองทุนรวมตลาดเงินอื่นที่อยู่ภายใต้การบริหารของบริษัทจัดการ

อย่างไรก็ตาม หากครบกำหนดระยะเวลา 7 เดือนนับแต่วันจดทะเบียนกองทรัพย์สินของโครงการเป็นกองทุนรวมแล้ว ไม่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวข้างต้น บริษัทจัดการจะเปิดให้ผู้ถือหน่วยลงทุนสามารถซื้อ/ขาย/สับเปลี่ยนหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการซื้อขายหน่วยลงทุนที่บริษัทจัดการกำหนด จนกว่าจะเข้าเงื่อนไขการเลิกกองตามเงื่อนไขที่ระบุไว้

FED ชี้ Tether เป็นความเสี่ยงของระบบการเงิน

จากรายงานของ coindesk ระบุว่าเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา Eric Rosengren ประธานธนาคารกลางสหรัฐ สาขาบอสตัน ได้กล่าวถึงความท้าทายในเสถียรภาพทางการเงินโดยระบุว่ามี Tether อยู่ในรายการที่เฟดกำลังจับตามอง ถึงแม้ว่า USDT นั้นจะเป็นเพียง Stablecoin ก็ตาม เพราะว่ามันถือว่าเป็นสิ่งกีดขวางที่เกิดขึ้นใหม่ ’สำหรับตลาดสินเชื่อระยะสั้น หรือ Credit Market

jumbo jili

“หากคุณมองไปในพอร์ตโฟลิโอของนักลงทุนเหล่านั้นก็คงจะดูเหมือนพอร์ตกองทุนตลาดเงินทั่วๆ ไป แต่มีความเสี่ยงมากกว่าเพราะเต็มไปด้วย Tether และ Stablecoin ซึ่งถึงแม้ว่า Tether จะมีทรัพย์สินอยู่เป็นจำนวนหนึ่ง ที่ในช่วงที่มีโรคระบาด สเปรดของมันค่อนข้างกว้างสำหรับทรัพย์สินเหล่านั้น

ซึ่งการที่สเปรดกว้างนั้น ในที่นี้หมายถึงการเทขาย และความแตกต่างของผลตอบแทนเพิ่มมากขึ้น ระหว่างสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงอย่างหุ้นกู้ (Corporate bond) และที่ถือว่าปลอดภัยอย่างพันธบัตรรัฐบาล (Treasury bond) ซึ่งเราควรจะตระหนัก ถึงสิ่งที่จะมาเป็นอุปสรรคต่อตลาดสินเชื่อระยะสั้นให้มากขึ้น และแน่นอน Stablecoin ก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่ต้องตระหนักถึง”

สล็อต

อย่างไรก็ตามตลาดของ Stablecoin ที่ในขณะนี้ยังไม่ได้มีการกำกับดูแลเสียเท่าไร โดยกำลังขยายใหญ่ขึ้น และจะกลายเป็นกลุ่มที่สำคัญต่อเศรษฐกิจมากขึ้น ดังนั้นควรที่จะเริ่มเอาจริงเอาจังเพื่อที่จะค้นหาว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อผู้คนเข้ามาลงทุนกับมันให้เร็วที่สุด โดย Caitlin Long ผู้ก่อตั้ง Avanti Financial และผู้สนับสนุนบิทคอยน์มายาวนาน ก็ได้เสนอความเห็นเช่นกันว่า “สิ่งที่น่าสนใจก็คือ Lael Brainard (หนึ่งในบอร์ดบริหารเฟด) และ Jerome Powell (ประธานเฟด) ได้พูดถึงเพียงแค่ “Stablecoin” แต่ Eric Rosengren กลับพูดถึง “Tether” โดยตรง ซึ่งการตีกรอบประเด็นให้แคบลง ทำให้โฟกัสได้ง่ายขึ้น และนั่นคือการที่ทำให้น่าสนใจมากขึ้น

สล็อตออนไลน์

“ปกติที่พบเห็นได้เป็นประจำคือ เทคนิคการพูดที่คลุมเครือของเฟด หรือ Fedspeak ที่เตรียมถ้อยแถลงออกมาอย่างเป็นทางการ ไม่เจาะจง Stablecoin อย่างใดอย่างหนึ่ง แต่ครั้งนี้เฟดกลับระบุชื่ออย่างเจาะจง ซึ่งไม่บ่อยนักที่เฟดจะพูดลักษณะนี้”

โดยการเผยข้อมูลสินทรัพย์ที่กล่าวถึง คือ กรณีที่มีการเผยข้อมูลสินทรัพย์ของ Tether และพบว่ากว่า 49% คือตราสารหนี้ระยะสั้น (Commercial Paper) ที่ไม่มีการระบุชื่อผู้ออก และไม่มีการจัดอันดับหนี้ โดยทิ้งไว้ซึ่งคำถามในเรื่องของสภาพคล่อง และความน่าเชื่อถือของ Tether เอง ว่าจริงๆ แล้ว Tether ที่อยู่ในตลาดนั้นมีสินทรัพย์อ้างอิงจริงๆ หรือไม่ (แต่หลังจากนั้นทาง Tether ก็ออกมากล่าวว่าตราสารหนี้ระยะสั้นส่วนใหญ่ออกโดยผู้ออกระกับ A-2 ขึ้นไป โดยที่ไม่ต้องระบุชื่อ) รวมถึงการที่ Eric Rosengren ได้แสดงสไลด์การนำเสนอ ที่แสดงให้เห็นรายการสินทรัพย์ต่างๆ ของ Tether ที่ถูกเผยออกมา ซึ่งก็มีรายการหนึ่งคือ Commercial Paper อยู่ที่ 49.6%

jumboslot

อย่างไรก็ดี USDT นั้นมีบทบาทสำคัญต่อมูลค่าทางการตลาดคริปโตมาก เหล่านักเทรดต่างใช้มันในการเคลื่อนย้ายเงินดอลลาร์ไปในแต่ละ Exchange เพื่อช่วงชิงความได้เปรียบในการเก็งกำไร โดย Stablecoin นั้นถูกสร้างขึ้นมาให้ถูกซื้อขายในราคาเดียวกัน หรือใกล้เคียงกับเงิน Fiat หรือเงินที่รัฐกำหนดอย่างเช่นดอลลาร์ แต่ในทางทฤษฎีแล้วมันควรจะสามารถแลกเงินได้แบบ 1-1 กับผู้ออกเหรียญเลย แต่ทั้งนี้ สินทรัพย์อ้างอิงของ Tether ก็ยังเป็นปริศนามาหลายปีนัก จนกระทั่งถูกเปิดเผยในครั้งนี้เอง

แต่ถึงแม้ว่าจะมีคำถามมาอย่างยาวนานสำหรับสถานะทางการเงินของ Tether แต่ USDT ก็ยังถูกซื้อขายในราคา 1 ดอลลาร์มาเกือบตลอดเวลาที่ผ่านมา โดย USDT ก็ยังเป็น Stablecoin ที่มีมูลค่าทางการตลาดสูงที่สุด ถึงแม้ว่าจะมีคู่แข่งออกมาที่มีความขัดแย้งของราคาน้อยกว่าก็ตาม

slot

ทั้งนี้ในเดือนที่ผ่านมา Jerome Powell ประธานเฟด กล่าวว่า จะมีเอกสารหนึ่งของเฟด ที่จะมีการเผยแพร่ออกมาในเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคมนี้ โดยจะมีการแสดงความเห็นเกี่ยวกับการใช้จ่ายด้วยช่องทางดิจิทัล ที่กล่าวถึงความเสี่ยง และประโยชน์ของ CBDC (สกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง) หลังจากที่เขาได้กล่าวพูดคุยเกี่ยวกับ Stablecoin แต่ไม่ได้กล่าวชื่อเหรียญใดอย่างเฉพาะเจาะจง โดยทางด้านของ Paolo Ardoino ประธานฝ่าย IT ของ Tether ได้กล่าวว่าการที่ Eric Rosengren กล่าวเช่นนี้ เนื่องจากเขามองเห็นการเติบโตของ Stablecoin รวมถึงนวัตกรรมอื่นๆ ในโลกของคริปโต และก็จำเป็นที่จะต้องแยกแยะให้ออกระหว่าง Stablecoin ที่มีการอ้างอิงอย่างชัดเจนอย่าง Tether และการทดลอง ‘ที่อันตรายอย่างยิ่ง’ อย่าง Algorithmic Stablecoin ที่กำลังถูกใช้งานอยู่ในโลก DeFi

“มันน่าทึ่งนะ ที่การโตขึ้นของส่วนแบ่งทางการตลาดของนวัตกรรมทางการเงินรูปแบบใหม่ กลับถูกจับตามองโดยเฟดบอสตัน” Paolo Ardoino กล่าว

แต่อย่างไรก็ตาม มันก็เป็นช่วงเวลาสำคัญที่จะให้ความรู้กับผู้บริโภค เกี่ยวกับความแตกต่างของ Stablecoin อย่าง Tether กับการทดลองต่างๆ นาๆ ที่กำลังถูกทำงานอยู่บน DeFi และ จะเป็นการดีที่จะให้นักลงทุนใช้เวลาศึกษาข้อมูลโครงการที่สนใจให้มากขึ้น โอกาสที่มาพร้อมกับผลตอบแทนที่สูงเกินจริงนั้นอันตรายเป็นอย่างมาก โดยการทดลองที่ยังไม่คงที่อย่าง Algorithmic Stablecoin นั้น ไม่ควรจะถูกนำมารวมกับ USDT เพราะมันเป็นเพียงแค่การทดสอบการใช้งานที่ยังขาดความเข้าใจ ที่อยู่ชั้นล่างสุดของระบบคริปโทเคอร์เรนซี

โครงการ “AOM YOUNG”

กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และ บลจ.กรุงไทย เปิดตัวโครงการ “AOM YOUNG” ส่งเสริมวินัยการออมการลงทุนด้วยกองทุนรวมแก่นักศึกษาผู้กู้ยืม กยศ. ทั่วประเทศ เพื่อสร้างอนาคตที่ดีทางการเงิน รวมทั้งสามารถชำระเงินคืนกองทุนได้เมื่อครบกำหนด เปิดรับนักศึกษาร่วมโครงการ 28 มิถุนายน 2564

jumbo jili

นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) กล่าวว่า การส่งเสริมให้นักศึกษาผู้กู้ยืมมีความรู้ทางการเงินเพื่อบริหารจัดการเงินของตนเองได้อย่างเหมาะสม ถือเป็นหนึ่งในพันธกิจที่กองทุนร่วมมือกับตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการส่งเสริมความรู้มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันมีนักเรียน นักศึกษาผู้กู้ยืมได้รับความรู้ผ่านหลักสูตร e-Learning แล้วกว่า 560,000 ราย โครงการนี้จึงจะมาช่วยต่อยอดให้ผู้กู้ยืมที่มีความรู้ทางการเงินมีช่องทางในการออมเงินสม่ำเสมอได้อย่างเหมาะสม

สล็อต

ซึ่งกองทุนเห็นถึงความสำคัญในการส่งเสริมให้เกิดการปฏิบัติจริง จึงพร้อมสนับสนุนให้ผู้กู้ยืมได้เรียนรู้การลงทุนผ่านกองทุนรวมในรูปแบบการออมสม่ำเสมอขั้นต่ำ 100 บาทต่อเดือน โดยเริ่มจาก KTAM เป็นที่แรก ซึ่งนอกจากผู้กู้ยืมจะมีเงินเก็บและมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่มากขึ้นแล้ว ยังนับเป็นจำนวนชั่วโมงจิตสาธารณะได้อีกด้วย โดยกองทุนมุ่งหวังว่าโครงการ “AOM YOUNG” จะช่วยให้นักศึกษามีเครื่องมือทางการเงินที่ทำให้การเริ่มต้นออมเพื่อเป้าหมายในระยะยาวเป็นจริงได้ ตลอดจนสามารถนำเงินที่ออมได้มาชำระคืนเงินกู้ยืมให้กองทุนเมื่อถึงกำหนดต่อไป

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า โครงการ “AOM YOUNG” เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างตลาดหลักทรัพย์ฯ กยศ. และ บลจ.กรุงไทย เพื่อส่งเสริมให้นักศึกษาผู้กู้ยืม กยศ. มีการวางแผนเพื่อการออมและลงทุนอย่างต่อเนื่องผ่านกองทุนรวม เพื่อเสริมสร้างวินัยและความมั่นคงทางการเงิน โดยโครงการนี้ยังเป็นการต่อยอดความร่วมมือในการส่งเสริมความรู้ทางการเงินที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ดำเนินงานร่วมกับ กยศ. อยู่ในปัจจุบัน

สล็อตออนไลน์

ซึ่งการรณรงค์ให้เกิดวินัยการออมผ่านโครงการ “AOM YOUNG” จะช่วยสร้างประสบการณ์ให้นักศึกษามีความเข้าใจการลงทุนและรู้จักทางเลือกการออมที่ช่วยเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดี มีเงินออมตั้งต้นพร้อมสำหรับเป้าหมายในอนาคต สอดคล้องกับพันธกิจของตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการพัฒนาตลาดทุนเพื่อทุกคน

นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า KTAM มีความยินดีในการร่วมส่งเสริมวินัยการออมผ่านกองทุนรวมให้แก่นักศึกษาผู้กู้ยืม กยศ. โดยจะส่งเสริมความรู้ด้านผลิตภัณฑ์การลงทุน เปิดโอกาสให้นักศึกษาสามารถเลือกผลิตภัณฑ์การลงทุนให้ตนเองได้อย่างเหมาะสม

นอกจากนี้ KTAM ยังได้คัดเลือกกองทุนรวมที่มีความเสี่ยงในระดับต่ำถึงปานกลางให้ตรงกับวัตถุประสงค์ในการออมและเริ่มต้นลงทุนของนักศึกษา โดยมีกองทุนให้เลือกหลากหลายประเภทตามความเสี่ยงที่แตกต่างกัน ได้แก่ 1) กองทุนตลาดเงิน : KTSS 2) กองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น : KT-STPLUS ซึ่งนักศึกษาเริ่มต้นลงทุนขั้นต่ำได้เพียงเดือนละ 100 บาท ผ่านทาง บลจ.กรุงไทย หรือธนาคารกรุงไทยทุกสาขา ทั้งนี้ KTAM เชื่อมั่นว่าโครงการ “AOM YOUNG” จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ช่วยให้เยาวชนรุ่นใหม่เห็นความสำคัญของการออมตั้งแต่อายุยังน้อยได้มากขึ้น

jumboslot

นักศึกษาผู้กู้ยืม กยศ. ทุกสถาบันการศึกษาทั่วประเทศสามารถเริ่มต้นออมสม่ำเสมอผ่านโครงการ “AOM YOUNG” ได้แล้วตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน 2564 โดยดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.setinvestnow.com, www.studentloan.or.th และ www.ktam.co.th

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า โครงการ “AOM YOUNG” เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างตลาดหลักทรัพย์ฯ ,กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) และ บลจ.กรุงไทย เพื่อส่งเสริมให้นักศึกษา ผู้กู้ยืม กยศ. มีการวางแผนเพื่อการออมและลงทุนอย่างต่อเนื่องผ่านกองทุนรวม เพื่อเสริมสร้างวินัยและความมั่นคงทางการเงิน โดยโครงการนี้ยังเป็นการต่อยอดความร่วมมือในการส่งเสริมความรู้ทางการเงิน ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ดำเนินงานร่วมกับ กยศ. อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งการรณรงค์ให้เกิดวินัยการออมผ่านโครงการ “AOM YOUNG” จะช่วยสร้างประสบการณ์ให้นักศึกษามีความเข้าใจการลงทุนและรู้จักทางเลือกการออมที่ช่วยเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดี มีเงินออมตั้งต้นพร้อมสำหรับเป้าหมายในอนาคต สอดคล้องกับพันธกิจของตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการพัฒนาตลาดทุนเพื่อทุกคน

นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการ กยศ. กล่าวว่า การส่งเสริมให้นักศึกษาผู้กู้ยืมมีความรู้ทางการเงินเพื่อบริหารจัดการเงินของตนเองได้อย่างเหมาะสม ถือเป็นหนึ่งในพันธกิจที่กองทุนร่วมมือกับ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการส่งเสริมความรู้มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันมีนักเรียน นักศึกษาผู้กู้ยืม ได้รับความรู้ผ่านหลักสูตร e-Learning แล้วกว่า 560,000 ราย โครงการนี้จึงจะมาช่วยต่อยอดให้ผู้กู้ยืมที่มีความรู้ทางการเงินมีช่องทางในการออมเงินสม่ำเสมอได้อย่างเหมาะสม ซึ่งกองทุนเห็นถึงความสำคัญในการส่งเสริมให้เกิดการปฏิบัติจริง จึงพร้อมสนับสนุนให้ผู้กู้ยืมได้เรียนรู้การลงทุนผ่านกองทุนรวมในรูปแบบการออมสม่ำเสมอขั้นต่ำ 100 บาทต่อเดือน โดยเริ่มจาก KTAM เป็นที่แรก

slot

นอกจากผู้กู้ยืมจะมีเงินเก็บและมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่มากขึ้นแล้ว ยังนับเป็นจำนวนชั่วโมงจิตสาธารณะได้อีกด้วย โดยกองทุนมุ่งหวังว่า โครงการ “AOM YOUNG” จะช่วยให้นักศึกษามีเครื่องมือทางการเงินที่ทำให้การเริ่มต้นออมเพื่อเป้าหมายในระยะยาวเป็นจริงได้ ตลอดจนสามารถนำเงินที่ออมได้มาชำระคืนเงินกู้ยืมให้กองทุนเมื่อถึงกำหนดต่อไป

นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บลจ. กรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า KTAM ยินดีร่วมส่งเสริมวินัยการออมผ่านกองทุนรวมให้แก่นักศึกษาผู้กู้ยืม กยศ. โดยจะส่งเสริมความรู้ด้านผลิตภัณฑ์การลงทุน เปิดโอกาสให้นักศึกษาเลือกผลิตภัณฑ์การลงทุนให้กับตนเองได้อย่างเหมาะสม

นอกจากนี้ KTAM ยังได้คัดเลือกองทุนรวมที่มีความเสี่ยงในระดับต่ำถึงปานกลางให้ตรงกับวัตถุประสงค์ในการออมและเริ่มต้นลงทุนของนักศึกษา โดยมีกองทุนให้เลือกหลากหลายประเภทตามความเสี่ยงที่แตกต่างกัน ได้แก่ 1) กองทุนตลาดเงิน: KTSS 2) กองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น: KT-STPLUSซึ่งนักศึกษาเริ่มต้นลงทุนขั้นต่ำได้เพียงเดือนละ 100 บาท ผ่านทาง บลจ.กรุงไทย หรือธนาคารกรุงไทย ทุกสาขา ทั้งนี้ KTAM เชื่อมั่นว่าโครงการ “AOM YOUNG” จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ช่วยให้เยาวชนรุ่นใหม่เห็นความสำคัญของการออมตั้งแต่อายุยังน้อยได้มากขึ้น

นักศึกษาผู้กู้ยืม กยศ. ทุกสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ สามารถเริ่มต้นออมสม่ำเสมอผ่านโครงการ “AOM YOUNG” ได้แล้วตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน 2564 โดยดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์[www.setinvestnow.com]www.setinvestnow.com,
[www.studentloan.or.th]www.studentloan.or.th และ [www.ktam.co.th]www.ktam.co.th