กีฬามหาวิทยาลัยโลกฤดูร้อน 2009 (การแข่งขันบาสเกตบอลระหว่างสถาบันอุดมศึกษา ครั้งที่ 5 หรือ บาสเกตบอลยูลีก เป็นการแข่งขันบาสเกตบอลระหว่างอุดมศึกษาในประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในปีนี้จัดเป็นครั้งที่ 5 โดยความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยสยามกับเครือเนชั่น ภายใต้ชื่อว่า เนชั่น-สยาม ยูนิเวอร์ซิตี้ บาสเกตบอลลีก 2008 ระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม ถึงวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2551 แบ่งเป็นสองประเภทคือ ทีมชาย 10 ทีม และทีมหญิง 6 ทีมรอบแรกจะพบกันหมดทุกทีม แบบเหย้า-เยือน ทีมที่ชนะจะได้ 2 คะแนน ส่วนทีมแพ้ได้ 1 คะแนน จากนั้น รอบรองชนะเลิศ ทีมที่ได้คะแนนอันดับ 1 จะพบ ทีมที่ได้คะแนนอันดับ 4 ส่วน ทีมที่ได้คะแนนอันดับ 2 จะพบกับทีมที่ได้คะแนนอันดับ 3 โดยทีมชนะจะเข้ารอบชิงชนะเลิศ ทีมแพ้ชิงอันดับ 3 สำหรับทีมชนะเลิศ จะได้ครองถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีมหาวิทยาลัยรังสิต เป็นมหาวิทยาลัยเอกชนในประเทศไทย ถูกจัดอยู่ในลำดับที่ 20 มหาวิทยาลัยที่แพงที่สุดในประเทศ นอกจากนี้ยังถูกจัดอันดับให้เป็นมหาวิทยาลัยเอกชนที่ดี ลำดับที่ 1 ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2528 เปิดสอนหลากหลายหลักสูตร ทั้งในระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก โดยเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนที่มีจำนวนศาสตราจารย์มากเป็นลำดับต้นๆของประเทศไทย และเป็นมหาวิทยาลัยที่มีจำนวนศิลปินดาราศึกษาอยู่เป็นจำนวนมากตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2527 นายประสิทธิ์ อุไรรัตน์ ประธานกรรมการ บริษัท ประสิทธิ์พัฒนา จำกัด ผู้ดำเนินกิจการโรงพยาบาลพญาไทในขณะนั้น พร้อมด้วย พลเอกพร ธนะภูมิ และ นายอาทิตย์ อุไรรัตน์ ได้ยื่นความประสงค์ เพื่อขอรับใบอนุญาตจัดตั้งสถาบันอุดมศึกษา ระดับวิทยาลัย ต่อทบวงมหาวิทยาลัย (ปัจจุบันคือ สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา)
คณะผู้ก่อตั้งวิทยาลัย ได้เลือกที่ดินบริเวณตำบลคูคตในขณะนั้น อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ ทุ่งรังสิต เป็นสถานที่ก่อตั้ง จึงได้นำมงคลนาม รังสิต อันเนื่องมาจากพระนามของ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารังสิตประยูรศักดิ์ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มาตั้งเป็นชื่อของวิทยาลัย ซึ่งเดิมเคยระบุชื่อวิทยาลัยที่จะก่อตั้งไว้ว่า วิทยาลัยปิ่นเกล้า ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น วิทยาลัยรังสิต ในเวลาต่อมา ต่อมา ในวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2528 ทบวงมหาวิทยาลัย ออกประกาศจัดตั้ง วิทยาลัยรังสิต (Rangsit College) ลงนามโดย นายปรีดา พัฒนถาบุตร รัฐมนตรีว่าการทบวงมหาวิทยาลัยในขณะนั้น และประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 102 ตอนที่ 28 ก ฉบับพิเศษ หน้า 5 เมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2528 โดยเป็นไปตามที่ระบุใน ใบอนุญาตจัดตั้งสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ที่ 2/2528 วิทยาลัยรังสิต ตั้งอยู่ภายในโครงการหมู่บ้านเมืองเอก บนถนนเอกประจิม ตำบลหลักหก อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี บนพื้นที่ 10 ไร่ ห่างจากท่าอากาศยานดอนเมือง เป็นระยะทาง 3 กิโลเมตร เริ่มเปิดการเรียนการสอนครั้งแรก เมื่อปีการศึกษา 2529 ในคณะพยาบาลศาสตร์ และคณะบริหารธุรกิจ โดยมีนักศึกษารุ่นแรก จำนวน 478 คน เมื่อวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2532 ทบวงมหาวิทยาลัย ออกประกาศอนุญาตให้นายประสิทธิ์ โอนกิจการวิทยาลัยรังสิต ให้เป็นสิทธิการบริหารงานของ บริษัท ประสิทธิ์รัตน์ จำกัด โดยให้ถือว่าบริษัทดังกล่าว เป็นเสมือนผู้รับใบอนุญาตของวิทยาลัย และเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2533 ทบวงมหาวิทยาลัย ออกประกาศอนุญาตให้วิทยาลัยรังสิต เปลี่ยนประเภทสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ขึ้นเป็น มหาวิทยาลัยรังสิต ทั้งนี้ ประกาศดังกล่าว ลงนามโดย นายทวิช กลิ่นประทุม รัฐมนตรีว่าการทบวงมหาวิทยาลัยในขณะนั้น และประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 107 ตอนที่ 164 ง หน้า 7213 เมื่อวันที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2533
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม เสด็จพระราชดำเนินทรงเป็นองค์ประธานในพิธีสถาปนามหาวิทยาลัยรังสิต เมื่อเวลา 15.00 น. วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2533 ซึ่งถือเป็นวันสถาปนามหาวิทยาลัยรังสิต โอกาสนี้ ทรงเยี่ยมชมอาคารหอสมุดของมหาวิทยาลัยด้วย แต่ทางมหาวิทยาลัยยังคงจัด พิธีรำลึกการสถาปนามหาวิทยาลัย ในวันที่ 25 มกราคม ของทุกปี ซึ่งเป็นวันจัดตั้งวิทยาลัยรังสิต มาจนถึงปัจจุบั มื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2553 หม่อมราชวงศ์ปรียนันทนา รังสิต พระนัดดาในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารังสิตประยูรศักดิ์ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร อนุญาตให้มหาวิทยาลัยรังสิต จำลองพระอนุสาวรีย์ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารังสิตประยูรศักดิ์ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร เพื่อประดิษฐาน ณ บริเวณหน้าอาคารวิทยาลัยแพทยศาสตร์ และคณะทันตแพทยศาสตร์ของมหาวิทยาลัย พร้อมทั้งได้รับอนุญาตให้อัญเชิญพระนาม รังสิตประยูรศักดิ์ เป็นชื่ออาคาร เนื่องจากทรงมีบทบาท ในการพัฒนาการแพทย์และการสาธารณสุขไทย เพื่อเผยแพร่พระเกียรติคุณสู่นักศึกษาและอนุชนรุ่นหลังสืบไป เมื่อวันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2553 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานนามแก่อาคารอเนกประสงค์ ซึ่งเป็นที่ทำการวิทยาลัยนานาชาติ และคณะอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการบริการของมหาวิทยาลัย ซึ่งจัดสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติ ในวโรกาสทรงเจริญพระชนมายุ 50 พรรษาว่า
รัตนคุณากร อันหมายถึง อาคารซึ่งเป็นบ่อเกิดแห่งความดีอันทรงค่า ในการนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดอาคารดังกล่าว ในวันพุธที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2553 พร้อมทั้งทอดพระเนตรกิจการของมหาวิทยาลัยรังสิต ในโอกาสการสถาปนาครบร มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เป็นสถาบันอุดมศึกษาเอกชน 1 ใน 5 แห่งแรกในประเทศไทยถูกสถาปนาขึ้นพร้อมกับ วิทยาลัยเกริก วิทยาลัยไทยสุริยะ วิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ และวิทยาลัยพัฒนา มหาวิทยาลัยกรุงเทพเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งแรกที่มีขนาดใหญที่สุดใประเทศไทย ก่อตั้งเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2505 โดยมีอาจารย์สุรัตน์ และอาจารย์ปองทิพย์ โอสถานุเคราะห์ เป็นผู้ก่อตั้ง เดิมชื่อว่า “โรงเรียนไทยเทคนิค” ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น “วิทยาลัยไทยเทคนิค” (Thai Polytechnic Institute) และเพื่อความเหมาะสมที่จะเป็นสถาบันอุดมศึกษาเอกชนที่เปิดสอนระดับปริญญาตรี จึงเปลี่ยนชื่อเป็น “วิทยาลัยกรุงเทพ” (Bangkok College) ในปี พ.ศ. 2508 ต่อมาเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2527 ทบวงมหาวิทยาลัยได้อนุมัติให้เปลี่ยนสถานภาพเป็น “มหาวิทยาลัยกรุงเทพ” (Bangkok University)ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา ลงวันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2527 โดยจัดการเรียนการสอนใน 11 คณะ รวมทั้ง วิทยาลัยนานาชาติ และบัณฑิตวิทยาลัย ครอบคลุมสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ และสถาปัตยกรรมศาสตร์ ปัจจุบัน เปิดดำเนินการสอน ใน 2 วิทยาเขต ได้แก่ วิทยาเขตกล้วยน้ำไท กรุงเทพมหานคร และวิทยาเขตรังสิต จังหวัดปทุมธานี
มหาวิทยาลัยกรุงเทพถือกำเนิดขึ้น จากการก่อตั้ง วิทยาลัยไทยเทคนิค ( Thai Polytechnic Institute) ขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2505 โดยสุรัตน์ และปองทิพย์ โอสถานุเคราะห์ (เจ้าของกิจการกลุ่มโอสถสภา) ซึ่งตั้งอยู่บนที่ดินของทั้งสอง ภายในซอยบ้านกล้วยใต้ ริมถนนพระรามที่ 4 (ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของวิทยาเขตกล้วยน้ำไท) ซึ่งในสมัยนั้นยังเป็นถนนลูกรังอยู่ แต่เป็นย่านค้าขายของเหล่าบรรดานายห้างต่างชาติ รวมถึงท่าเรือสินค้าที่คลองเตยด้วย ต่อมาในปี พ.ศ. 2508 ผู้บริหารเปลี่ยนชื่อสถาบันแห่งนี้เป็น วิทยาลัยกรุงเทพ ( Bangkok College) เนื่องจากชื่อเดิม สร้างความสับสนต่อประชาชนทั่วไป ที่คิดว่าเป็นโรงเรียนอาชีวศึกษา โดยสมัยแรกๆ กระทรวงศึกษาธิการมิได้รับรอง การจัดการศึกษาของโรงเรียน[ต้องการอ้างอิง] แต่เนื่องจากเป็นวิทยาลัยเอกชนแห่งแรก ที่เปิดสอนในระดับปริญญา ผู้บริหารจึงขอความร่วมมือทางวิชาการ จากมหาวิทยาลัยแฟรลีดิกคินสัน (Fairleigh Dickinson University) สหรัฐอเมริกา ให้เป็นผู้รับรองวิทยฐานะของปริญญา โดยในสมัยนั้น ผู้สำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยกรุงเทพ จะมีปริญญาสองใบคือ จากวิทยาลัยกรุงเทพ และมหาวิทยาลัยแฟรลีดิกคินสันด้วย ในระยะต่อมา วิทยาลัยกรุงเทพขยายตัวขึ้นเป็นลำดับ ขณะเดียวกัน มีการก่อตั้งวิทยาลัยเอกชน เพิ่มเติมขึ้นอีกหลายแห่ง เช่นวิทยาลัยการค้าหรือวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ส่งผลให้การแข่งขันของสถาบันการศึกษาเอกชนสูงขึ้น ผู้บริหารวิทยาลัยกรุงเทพ จึงวางโครงการขยายการศึกษา เพื่อยกฐานะขึ้นเป็นมหาวิทยาลัยมาโดยตลอด จนกระทั่งเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2527 ทบวงมหาวิทยาลัยจึงยกฐานะขึ้นเป็น มหาวิทยาลัยกรุงเทพ (พร้อมกับมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ และมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย) มหาวิทยาลัยกรุงเทพมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว นำมาซึ่งการเปิดวิทยาเขตแห่งใหม่ บริเวณย่านรังสิต จังหวัดปทุมธานี ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากท่าอากาศยานดอนเมือง ไปตามถนนพหลโยธินเป็นระยะทาง 14 กิโลเมตร ภายในพื้นที่กว่า 400 ไร่ ซึ่งผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยมีความคาดหวัง ที่จะสร้างวิทยาเขตรังสิต ให้เป็นมหาวิทยาลัยที่มีบรรยากาศ เช่นเดียวกับมหาวิทยาลัยชั้นนำ ในสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา ซึ่งตั้งอยู่ในย่านชานเมือง อาคารเรียนต่างๆ มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ประกอบด้วยสวนหย่อม ซึ่งปลูกต้นไม้ไว้มาก รวมถึงขุดทะเลสาบ แต่เนื่องจากในยุคแรกที่ขยายวิทยาเขตนั้น ย่านรังสิตยังคงห่างไกลจากความเจริญของเมือง นักศึกษามหาวิทยาลัยกรุงเทพ จึงพากันขนานนามวิทยาเขตรังสิตว่าเป็น กระท่อมปลายนา